recyglo-logo

จัดฟันใส ราคาเท่าไร มีกี่แบบ ต้องใช้เวลาจัดกี่เดือน คลายทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับจัดฟันใส

18 กรกฎาคม 2025

การจัดฟันใส หรือ Clear Aligner เป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมเพื่อการจัดฟัน ผลิตจากพลาสติกใสเกรดทางการแพทย์ ซึ่งถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลโดยสามารถสวมเข้าและถอดออกได้ โดยการจัดฟันแบบใสนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นด้านความสวยงาม ใส่สบาย และไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

แต่หลายคนที่สนใจการจัดฟันแบบใสอาจยังมีคำถามว่า จัดฟันใส ราคาเท่าไร ใช้เวลาในการรักษานานแค่ไหน และต้องพิจารณาอะไรก่อนตัดสินใจจัดฟันใสบ้าง ในบทความนี้ คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) ขอพาไปคลายทุกข้อสงสัย พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดฟันใสแบบละเอียด

จัดฟันใสคืออะไร ต่างจากจัดฟันปกติอย่างไร

จัดฟันใสคืออะไร ต่างจากจัดฟันปกติอย่างไร

การจัดฟันใส (Clear Aligner) คือ การรักษาทางทันตกรรมจัดฟันที่ใช้อุปกรณ์จัดฟันแบบถอดได้ (Removable Appliances) ผลิตจากพลาสติกใสชนิดพิเศษทางการแพทย์ โดยอุปกรณ์จัดฟันแต่ละชุดจะถูกออกแบบเฉพาะบุคคลตามลักษณะของช่องปากและโครงสร้างฟันที่ต้องได้รับการแก้ไขตามคำวินิจฉัยของทันตแพทย์ เพื่อให้สามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนตัวของฟันได้ตามแผนการรักษา

โดยผู้เข้ารับการจัดฟันใสจะต้องสวมใส่อุปกรณ์จัดฟันใสตามลำดับชุดที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ โดยมากมักจะเปลี่ยนชุดอุปกรณ์จัดฟันใสใหม่ทุก 1–2 สัปดาห์ เพื่อให้ฟันค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่ตำแหน่งที่ต้องการอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นการรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไปตามแผนที่วางไว้

จัดฟันใสต่างจากจัดฟันปกติอย่างไร

เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันใสมีข้อได้เปรียบหลายด้าน ทั้งเรื่องความสวยงาม ความสะดวกในการทำความสะอาด เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันสามารถถอดเข้า-ออกได้ สะดวกในการแปรงฟันและรับประทานอาหาร และลดการระคายเคืองหรือเกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากไม่มีลวดจัดฟัน (Archwire) หรือ แบร็กเก็ต (Bracket) ที่อาจเสียดสีกับเนื้อเยื่อภายในช่องปาก

จัดฟันใสราคาเท่าไร

สำหรับการจัดฟันใส ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงราคา 50,000 – 160,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายของความซับซ้อนของโครงสร้างฟันในแต่ละเคส เช่น ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ รวมถึงแบรนด์ของอุปกรณ์จัดฟัน ทั้งนี้ ในบางแพ็กเกจจะยังไม่รวมราคาของรีเทรนเนอร์หลังจัดฟัน หรือ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก และในแต่ละแพ็กเกจจะมีการแบ่งชำระค่ารักษาแตกต่างกันออกไป

โดยสามารถสอบถามรายละเอียด หรือ จองคิวนัดหมายง่าย ๆ ผ่าน LINE : @cusdc หรือ โทร 0-2430-6533

จองคิวนัดหมาย CUSDC ง่าย ๆ ผ่าน LINE : @cusdc หรือ โทร 0-2430-6533

จัดฟันใสดีไหม? รวมข้อดีและข้อจำกัดของการจัดฟันใส

แม้การจัดฟันใสจะเป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมที่มีข้อได้เปรียบหลายด้าน แต่อาจไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนเสมอไป ดังนั้น แนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้น หรือ เข้าพบทันตแพทย์เพื่อขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดฟันใส

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส

  • สวยงามและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จัดฟันใสได้ ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์จัดฟันเกะกะในช่องปาก หากไม่สังเกตก็จะมองไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟันใส จึงเหมาะกับผู้ใหญ่หรือคนทำงาน
  • ถอดเข้า-ออกได้ตามต้องการ และไม่ต้องกังวลเรื่องเศษอาหารติดอุปกรณ์จัดฟัน หรือ แปรงฟันไม่ทั่วถึง
  • รู้สึกสบายและไม่ก่อให้เกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันใสจะแนบเนียนไปกับฟันของเรา ไม่มีลวดจัดฟันที่อาจเสียดสีกระพุ้งแก้มหรือลิ้น

ข้อจำกัดของการจัดฟันแบบใส

  • ราคาสูงกว่าแบบการจัดฟันทั่วไป
  • ต้องมีวินัย เนื่องจากต้องใส่อุปกรณ์จัดฟันใส หรือ Aligner อย่างน้อยวันละ 20-22 ชั่วโมง หากถอดบ่อยเกินไปอาจจะทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

จัดฟันใสยี่ห้อไหนดี

การเลือกยี่ห้อสำหรับการจัดฟันใสควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องงบประมาณและความซับซ้อนของปัญหาฟัน แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจจัดฟันใสยี่ห้อไหน ก็ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์เท่านั้น

โดยในปัจจุบันมีแบรนด์จัดฟันใสให้เลือกหลากหลาย และแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดยคลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) ขอแนะนำทั้งหมด 4 ยี่ห้อด้วยกัน ดังนี้

แบรนด์จุดเด่น
Invisalignแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและมีประสบการณ์ยาวนาน ได้รับการยอมรับในระดับสากล วัสดุคุณภาพสูง มีความแม่นยำในการออกแบบแผนการรักษา 
ClearCorrectวัสดุคุณภาพดี มีตัวเลือกหลากหลายตามความซับซ้อนของเคส ในบางแพ็กเกจ ราคารวมรีเทรนเนอร์แล้ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันใสในงบประมาณที่ยืดหยุ่น
Sparkวัสดุคุณภาพดี มีความโปร่งใสสูง เป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นในแง่ของราคา โดยมีหลายระดับแผนการรักษาให้เลือก
Angel Alignerวัสดุคุณภาพดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟันใสแบบเบื้องต้น มีจุดเด่นเรื่องความประหยัดของแพ็กเกจโดยรวม

จัดฟันใสต้องใช้เวลากี่เดือน

ระยะเวลาในการจัดฟันใสขึ้นอยู่กับลักษณะความยาก-ง่ายของโครงสร้างฟันในแต่ละเคส โดยทั่วไปจะใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือน – 2 ปี

นอกจากนี้ วินัยและความสม่ำเสมอในการใส่อุปกรณ์จัดฟันใส ก็มีผลต่อระยะเวลารักษา หากใส่ไม่ครบชั่วโมงต่อวันตามที่ทันตแพทย์กำหนด ก็อาจต้องใช้เวลาในการจัดฟันนานกว่ากำหนดได้

จัดฟันใสต้องมาหาหมอบ่อยไหม

ในช่วงเริ่มต้นของการรักษา อาจต้องเข้ามาพบทันตแพทย์บ่อย เช่น นัดหมายเพื่อสแกนฟัน ดูแผนการรักษา นัดรับอุปกรณ์จัดฟันใส ทุก 1 – 2 สัปดาห์ แต่โดยปกติจะมีการนัดหมายพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 – 8 สัปดาห์ เพื่อตรวจดูความคืบหน้าในการเคลื่อนตัวของฟัน

คำแนะนำและข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจจัดฟันใส

  • แนะนำให้ตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 6 เดือน เช่น อุดฟัน ถอนฟัน หรือ ขูดหินปูน ก่อนการจัดฟัน
  • เข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์ และนำมาประเมินให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี เนื่องจากการจัดฟันใสแบบถอดได้ มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่น (Fixed Appliance)
  • เลือกคลินิกที่สามารถไว้วางใจได้ และมีบริการทันตกรรมจัดฟันเฉพาะทางจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ทำตามแผนการรักษาและคำแนะนำจากทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคุ้มค่ากับการลงทุน

ขั้นตอนการจัดฟันใสมีอะไรบ้าง 

การจัดฟันใสมีขั้นตอนที่ออกแบบมาอย่างเป็นระบบ และต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้เข้ารับการรักษากับทันตแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะมีขั้นตอนคร่าว ๆ ดังนี้

1. เข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์

เริ่มจากการเข้ารับคำปรึกษา เพื่อประเมินลักษณะของฟัน เหงือก และโครงสร้างขากรรไกร โดยทันตแพทย์จะแนะนำรูปแบบการจัดฟันที่เหมาะสม รวมถึงให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแพ็กเกจการจัดฟันใส ราคาค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงระยะเวลาการรักษา

2. เริ่มแผนการจัดฟันใส

โดยจะเริ่มตั้งแต่สแกนฟันด้วยระบบดิจิทัล 3 มิติ เพื่อให้ทันตแพทย์สามารถออกแบบแผนการรักษาได้แม่นยำตามโครงสร้างฟันของแต่ละคน 

และจากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ ทันตแพทย์จะจัดทำแผนการเคลื่อนฟันอย่างเป็นขั้นตอน และออกแบบชุดอุปกรณ์จัดฟันใส (Aligner) ให้เหมาะกับผู้เข้ารับการรักษา 

3. เริ่มใส่อุปกรณ์จัดฟันใส

เมื่ออุปกรณ์จัดฟันใสพร้อม ทันตแพทย์จะตรวจสอบความพอดีและสอนวิธีใส่และถอดอย่างถูกต้อง พร้อมให้คำแนะนำในการใส่ ระยะเวลาในการใส่ การทำความสะอาด การดูแลรักษา และข้อควรปฏิบัติ

4. ติดตามผลและเปลี่ยนอุปกรณ์จัดฟันใสตามแผน

โดยปกติแล้วจะเปลี่ยนอุปกรณ์จัดฟันใสทุก 1–2 สัปดาห์ และตรวจกับทันตแพทย์ทุก 6–8 สัปดาห์ เพื่อประเมินการเคลื่อนฟัน และอาจมีการปรับแผนตามการประเมินของทันตแพทย์

5. เสร็จสิ้นการรักษาและใส่รีเทรนเนอร์ (Retrainer)

หลังจัดฟันใสเสร็จ ทันตแพทย์จะให้ใส่รีเทรนเนอร์เพื่อคงสภาพฟันไม่ให้เคลื่อนกลับ โดยต้องใส่ตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาผลลัพธ์ของการจัดฟันให้อยู่ในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการจัดฟันใส

คำถาม 1: จัดฟันใสเจ็บไหม

คำตอบ คือ รู้สึกตึงในช่วงแรก และไม่มีอาการเจ็บจากบาดแผลในช่องปาก

คำถาม 2: ทำไมจัดฟันใสราคาสูงกว่า

คำตอบ คือ เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางหลายชุด ผลิตแบบเฉพาะบุคคล และต้องมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด

คำถาม 3: จัดฟันใสต้องถอนฟันไหม

คำตอบ คือ ขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์และแผนการรักษา บางเคสอาจไม่ต้องถอนฟันเลย แต่หากมีฟันซ้อนเก หรือ แน่นมาก อาจจำเป็นต้องถอนเพื่อให้มีพื้นที่ในการเรียงฟันอย่างเหมาะสม 

คำถาม 4: จัดฟันใสตอนอายุ 50 หรือ ตอนแก่ได้ไหม

คำตอบ คือ การจัดฟันใสสามารถทำได้ในทุกช่วงวัย รวมถึงผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือ ผู้สูงอายุ ตราบใดที่มีสุขภาพช่องปาก เหงือก และฟันที่ดี 

คำถาม 5: ใส่อุปกรณ์จัดฟันใสแล้วจะพูดไม่ชัดหรือเปล่า

คำตอบ คือ ในช่วงแรกอาจรู้สึกพูดไม่ชัดบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อใส่จนชินแล้วจะสามารถปรับการพูดได้ตามปกติ

คำถาม 6: ถ้ามีการอุดฟัน ครอบฟัน หรือ ใส่ฟันปลอมบางซี่ สามารถจัดฟันใสได้ไหม

คำตอบ คือ สามารถจัดฟันใสได้ ถึงแม้จะมีการอุดฟันหรือครอบฟัน แต่จำเป็นต้องให้ทันตแพทย์ประเมินสุขภาพฟันโดยละเอียดก่อน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

คำถาม 7: จัดฟันใสต้องใส่รีเทนเนอร์ไหมหลังจัดเสร็จ?

คำตอบ คือ ต้องใส่รีเทนเนอร์เช่นเดียวกับการจัดฟันทุกประเภท เพื่อคงสภาพฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามการรักษา และเพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟันในอนาคต

คำถาม 8: ใส่อุปกรณ์จัดฟันใสแค่ตอนนอนได้ไหม 

คำตอบ คือ หากใส่ไม่ครบตามชั่วโมงที่กำหนดอาจส่งผลให้ฟันไม่เคลื่อนตามแผนการรักษา และต้องขยายเวลาในรักษา หรือ อาจต้องพิมพ์อุปกรณ์จัดฟันใสใหม่

จัดฟันใสที่คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) ดียังไง

จัดฟันใสที่คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) ดียังไง

ที่ CUSDC มีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ กว่า 284 คน ดูแลทุกเคสอย่างใกล้ชิด จึงมั่นใจได้ว่า คุณภาพการรักษามีมาตรฐานสูงและใส่ใจในทุกขั้นตอน รวมถึงมีบริการทางทันตกรรมที่หลากหลายและครอบคลุมทุกสาขาทันตกรรม ทั้งทั่วไป จัดฟัน ฟอกสีฟัน รักษารากฟัน รักษาการนอนกัดฟัน ทันตกรรมเด็ก และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมเปิดให้บริการทั้งในและนอกเวลาราชการ

สามารถจองคิวนัดหมายง่าย ๆ ผ่าน LINE : @cusdc หรือ โทร 0-2430-6533

จองคิวนัดหมาย CUSDC ง่าย ๆ ผ่าน LINE : @cusdc หรือ โทร 0-2430-6533

📍พิกัดคลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) 

วิธีเดินทาง CUSDC

คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) ตั้งอยู่ที่อาคารคลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ (CUSDC) คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถโดยสารสาธารณะ ทั้ง BTS, MRT รถเมล์ และ รถปอพ รวมถึงมีที่จอดรถสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนตัวอีกด้วย

📍 ที่ตั้ง CUSDC https://hny.link/xfOruFX

สรุป

การจัดฟันใส (Clear Aligner) เป็นนวัตกรรมทันตกรรมที่ใช้วัสดุพลาสติกใสเกรดทางการแพทย์ ออกแบบเฉพาะบุคคล สามารถถอดได้ และได้รับความนิยมอย่างมากในคนที่ต้องการจัดฟันแบบไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟันและไม่อยากให้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน โดยมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก เช่น Invisalign, ClearCorrect, Spark และ Angel Aligner ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นและระดับราคาที่ต่างกันไป โดยจัดฟันใส ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นกลาง ๆ ไปจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโครงสร้างฟันและแผนการรักษา 

ส่วนระยะเวลาในการจัดฟันใสมักอยู่ที่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับวินัยในการใส่อุปกรณ์จัดฟันใสอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 20–22 ชั่วโมง พร้อมกับการติดตามผลกับทันตแพทย์เป็นระยะ เพื่อให้ฟันเคลื่อนตัวได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อมูลโดย: ทพญ.วรฤทัย ฐิติรุ่งเรือง